หลักการและเหตุผล

ผู้ป่วยเด็กวิกฤตเป็นผู้ที่เจ็บป่วยในภาวะฉุกเฉิน มีปัญหาซับซ้อนและเสี่ยงต่อชีวิต ต้องการการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ อารมณ์ สังคมและจิตวิญญาณ ต้องได้รับการเฝ้าระวัง ให้การพยาบาลอย่างใกล้ชิดและช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นและอาจมีความรุนแรงถึงแก่ชีวิต  ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงและผู้ดูแลที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วยเด็กระวิกฤต การให้บริการพยาบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤตที่มีประสิทธิภาพนั้นสามารถช่วยรักษาชีวิตและให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ จึงจำเป็นต้องพัฒนาพยาบาลวิชาชีพให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะและใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และในการให้การพยาบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤต ให้มีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยเน้นผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง ทำงานแบบวิชาชีพและแบบสหสาขาวิชาชีพที่เป็นมาตรฐานสากล จากเหตุผลดังกล่าว ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  ร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดการฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤตให้กับพยาบาลวิชาชีพเพื่อพัฒนาศักยภาพ ให้เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะสาขา   ในการดูแลผู้ป่วยเด็กวิกฤตแบบองค์รวม ส่งผลให้ผู้ป่วยเด็กได้รับบริการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

วัตถุประสงค์ของโครงการ

           เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความสามารถ ทักษะและใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการพยาบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤตที่มีปัญหาซับซ้อนตลอดจนส่งเสริมป้องกันและฟื้นฟูสมรรถภาพโดยใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมที่มีผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการประสานงานกับสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยด็กวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.อธิบายนโยบาย  แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวกับนโยบายและระบบบริการสุขภาพเด็กวิกฤตได้ 

2.อธิบายมาตรฐานการพยาบาล และการนำหลักฐานเชิงประจักษ์มาใช้ในการดูแลเด็กวิกฤตได้ 

3.วินิจฉัย  จัดการแก้ไขปัญหาสุขภาพของเด็กวิกฤต

4.วางแผนให้การพยาบาลอย่างเป็นองค์รวมโดยมีผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง  และปลอดภัย

5.วิเคราะห์  คาดการณ์และจัดการกับภาวะแทรกซ้อนจากโรคและการรักษาที่เกิดขึ้นกับเด็กวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6.ประเมิน เฝ้าระวัง ความผิดปกติทางสุขภาพเด็กวิกฤตโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

7.ให้ความรู้ คำแนะนำ และคำปรึกษาแก่ครอบครัวของเด็กที่กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตได้

8. วิเคราะห์  ตัดสินใจในประเด็นปัญหาทางกฎหมาย จริยธรรมที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยเด็กวิกฤต รวมทั้งครอบครัวได้อย่างเหมาะสม

9. เป็นผู้พิทักษ์สิทธิ์ของผู้ป่วยและครอบครัวในการประสานความร่วมมือในวิชาชีพ และสหวิชาชีพเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ