การจัดค่ายผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม Love for Humanity by Siriraj @ Bhutan

 ผศ. พญ. จันทนรัศม์ จันทนยิ่งยง
ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

      การจัดค่ายผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม Love for Humanity by Siriraj @ Bhutan ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงพยาบาล Jigme Dorji Wangchuck National Referral Hospital (JDWNRH) ประเทศภูฏาน โดยความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำโดย ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมทีมงานจากประเทศไทย

       ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากการพบปะกันที่งาน Nepal Orthocon ที่เมืองลุมพินี เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างนายแพทย์ Kuenzang Wangdi นายแพทย์ Sonam Dorji และ ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช หลังจากการประเมินความเป็นไปได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ทีมงานได้ตั้งเป้าหมายการผ่าตัด 72 ราย ซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ตรงกับพระชนมายุของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยได้รับการสนับสนุนด้านการระดมทุนที่สำคัญจากหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด และ หลวงพ่ออนิลมาน ธมฺมสากิโย วัดบวรนิเวศวิหาร จากประเทศไทย

       ตลอดระยะเวลา 1 ปี ได้มีการประสานงานเตรียมความพร้อมการจัดโครงการระหว่างทีมงานประเทศไทยและประเทศภูฏานอย่างละเอียดรอบคอบและประสิทธิภาพ โดยทีมงานไทยดำเนินการจัดการและส่งทีมแพทย์ผ่าตัดเฉพาะทาง ขณะที่ทีมประเทศภูฏานดูแลด้านการคัดครองผู้ป่วยและประสานงานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารโรงพยาบาลและวิทยาลัยพยาบาล จากผลการดำเนินงานดังกล่าวฯ ค่ายผ่าตัดประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยได้ดำเนินการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าทั้งสิ้น จำนวน 79 ข้อ ในผู้ป่วย 53 ราย ภายในระยะเวลา 3 วัน แบ่งได้ดังนี้ วันแรกผ่าตัด 16 ข้อ, วันที่สองผ่าตัด 29 ข้อ วันที่สาม ผ่าตัด 34 ข้อ และในวันสุดท้ายทีมงานได้จัดงานประชุมวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานทั้งในรูปแบบ Online และในรูปแบบ On – Site จำนวนกว่า 100 คน ซึ่งมีพิธีปิดในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยได้รับเกียรติจาก HRH Ashi Dechen Yangzom Wangchuck และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมพิธีและเยี่ยมผู้ป่วยจำนวนกว่า 30 ราย หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดให้สามารถกลับมาฟื้นตัวเดินได้อย่างปกติ

      หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจค่ายผ่าตัด คณะผู้แทนไทยได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณสองแห่ง ได้แก่ วัดถ้ำเสือ (Taktshang Monastery) และพระพุทธรูปดอร์เดมา ที่ Kuenselphodrang การเยือนครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ รวมถึงมีการสวดมนต์เพื่อการฟื้นตัวของผู้ป่วยและความร่วมมือในอนาคต

       ความสำเร็จของค่ายครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จทางการแพทย์ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-ภูฏาน และวางรากฐานสำหรับความร่วมมือด้านสาธารณสุขในอนาคต ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขภูฏานได้แสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อ ศ.นพ. กีรติ เจริญชลวานิช หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด ตลอดจนทีมงานจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้มีส่วนร่วมทุกท่านสำหรับความทุ่มเทในการพัฒนาบริการด้านสาธารณสุขในประเทศภูฏาน อันจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่สร้างองค์ความรู้และบริการอันเป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพระดับโลก