ไม่เอา 3 อ.
การดูแลผู้ป่วยหัวใจห้องบนเต้นพลิ้วแบบองค์รวมด้วยแนวทาง เอ บี ซี

: วิเคราะห์อัตราการชนะ จากทะเบียนผู้ป่วย
คูล-เอเอฟ

ศ.นพ.รุ่งโรจน์ กฤตยพงษ์
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

โรคหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะ (Atrial fibrillation: AF) เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดที่พบได้มากที่สุดทั้งในไทยและต่างประเทศ เกิดจากการลัดวงจรไฟฟ้าที่หัวใจห้องบน ทำให้มีลักษณะเต้นพลิ้วและไม่มีการบีบตัวที่มีประสิทธิภาพ โดยพบว่ามีภาวะหรือโรคหลายอย่างที่สัมพันธ์กับการเกิด AF ได้ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น, โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดหัวใจหรือโรคลิ้นหัวใจพิการ จากข้อมูลทางระบาดวิทยาแสดงให้เห็นว่าโรค AF นี้ ยังคงมีความชุกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมตามแนวทาง Atrial fibrillation Better Care (ABC) pathway หรือ “ไม่เอา 3 อ.” ตามแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับการวินิจฉัยและการดูแลรักษาผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด Atrial fibrillation พ.ศ.2568 ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่

• A (Avoid stroke) (อ – อัมพฤกษ์ อัมพาต): ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (thromboembolism) ของหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง โดยเน้นที่การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดรับประทาน (oral anticoagulant) อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกที่เป็นภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยา

• B (Better symptom management) (อ – อาการ): การลดอาการและความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับ AF โดยการรักษาด้วยยาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

• C (Cardiovascular risk and comorbidity management) (อ – อ้วน และ อื่นๆ): การค้นหาโรคร่วม ได้แก่ ภาวะอ้วน (Obesity) โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจ ล้มเหลว (Heart failure; HF) ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive sleep apnea; OSA) รวมไปถึงการค้นหาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การขาดการออกกำลังกาย การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และให้คำแนะนำในการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

Win ratio หรืออัตราการชนะ คือการวิเคราะห์ผลการรักษาโดยมีจัดลำดับความสำคัญของเหตุการณ์ เช่น การเสียชีวิตย่อมมีความสำคัญกว่าการมีเลือดออกเล็กน้อย นักวิจัยจะเปรียบเทียบผลของผู้ป่วยระหว่างสองกลุ่มทีละคู่ แล้วดูว่ากลุ่มใด “ชนะ” หรือก็คือมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า หากค่า Win ratio มากกว่า 1 หมายถึงกลุ่มที่ศึกษากลุ่มนั้นมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าอีกกลุ่ม

คณะผู้วิจัยแบบพหุสถาบัน (multicenter registry) COOL-AF registry นำโดย ศ.นพ.รุ่งโรจน์ กฤตยพษ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย โดยงานวิจัยนี้ ได้รวบรวมข้อมูลผู้ป่วย AF มากกว่า 3,400 รายทั่วประเทศ และมีการติดตามผู้ป่วย 3 ปี เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้ป่วย AF ในประเทศไทย เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์เปรียบเทียบผลลัพธ์ทางคลินิก ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวทาง ABC pathway กับกลุ่มที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวโดยใช้การวิเคราะห์ทางสถิติแบบ Win ratio analysis โดยจัดลำดับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ตามความรุนแรง ได้แก่ การเสียชีวิต อัมพาต เลือดออก และภาวะหัวใจล้มเหลว พบว่า ผู้ที่ปฏิบัติตามแนวทาง ABC pathway ครบทั้ง 3 องค์ประกอบให้ผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามอย่างมีนัยสำคัญ (win ratio = 1.57; P<0.001) และเมื่อนำเกณฑ์คุณภาพการควบคุมยา warfarin (TTR ≥65%) มาวิเคราะห์ร่วมกันยิ่งพบว่าให้ผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดีขึ้น (win ratio = 2.28; P<0.001) ผลการศึกษานี้ยืนยันว่า การดูแลผู้ป่วยภาวะหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะตามแต่ละองค์ประกอบของแนวทาง ABC pathway หรือ “ไม่เอา 3 อ.” ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดี ลดการเสียชีวิต และภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว

งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Europace (2024) ซึ่งตีพิมพ์โดย Oxford University Press ภายใต้สมาคมโรคหัวใจแห่งยุโรป European Society of Cardiology (ESC) (Europace (2024) 26, euae237 https:// doi.org/10.1093/europace/euae237) นับเป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของศิริราชในการยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจให้ก้าวทันมาตรฐานสากล และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ประชาชนไทย