History / The Building / History of education / Research Service / List of names

ประวัติความเป็นมางานวิจัย และงานบริการ

ประวัติความเป็นมา ด้านงานวิจัย

งานวิจัยของภาควิชานั้น ในช่วงแรก ส่วนใหญ่จะเป็นการวิเคราะห์ค่าทางห้องปฏิบัติการที่ให้บริการแก่ผู้ป่วยเพื่อใช้ประยุกต์ทางคลินิก ในการวินิจฉัยและติดตามผลการรักษา แต่กระนั้นก็ยังมีผลงานวิจัยที่ได้บุกเบิกตั้งแต่ระยะแรกและเป็นประโยชน์มาถึงปัจจุบัน ได้แก่งานวิจัยของ ศาสตราจารย์นายแพทย์สนอง อูนากูล และคณะฯ เกี่ยวกับการศึกษาทางชีวเคมีของนิ่วปัสสาวะ นับเป็นกลุ่มวิจัยคณะแรกของประเทศไทย ที่ทำการศึกษาส่วนประกอบของก้อนนิ่ว การหาสาเหตุและแนวทางป้องกัน ได้ทำการศึกษาต่อเนื่องอยู่ถึง 20 ปีระหว่าง ปี 2484 – 2504 อีกทั้งมีการออกหน่วยศึกษานอกสถานที่เพื่อเก็บข้อมูลวิเคราะห์โรคนิ่วจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศติดต่อกันเป็นเวลา 7 ปี สามารถรวบรวมจำนวนผู้ป่วยโรคนิ่ว 25,149 ราย ได้สถิติผู้ป่วยแต่ละจังหวัด และได้ตีพิมพ์ในวารสารศิริราช 2504 ; 13:199-214 อีกทั้งนำเสนอใน The Proceedings of the 9 th Pacific Science Congress 1957 และมีการตีพิมพ์ในค.ศ.1962 เป็นที่สนใจอย่างแพร่หลาย ทำให้หลายๆประเทศนำไปใช้อ้างอิงและถือว่าประเทศเป็นแหล่งนิ่ว 1 ใน 8 ของโลก ปัจจุบันยังมีตัวอย่างนิ่วต่างๆ ที่ใช้ศึกษา ในช่วงดังกล่าวเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิริราช และขณะนี้การศึกษาวิจัยโรคนิ่วยังผลเป็นงานวิจัยสำคัญที่มีการศึกษาอย่างกว้างขวางร่วมกันระหว่าง สาขาวักกะวิทยา สถานอณูชีววิทยาและภาควิชาชีวเคมี

การศึกษาด้านโภชนาการเกี่ยวกับโรคอ้วน และภาวะโคเลสเตอรอลสูงที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์สนอง อูนากูล ได้ศึกษาวิจัยตั้งแต่ปี 2496 และได้เผยแพร่ให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายของภาวะดังกล่าว จากผลการวิจัยที่ได้ศึกษาร่วมกับนักศึกษาปริญญาโท สรุปได้ว่ากลุ่มแพทย์และพยาบาลมีโคเลสเตอรอลในเลือด สูงกว่ากลุ่มคนงาน และจากการทดลองกินน้ำมันรำ 70 ส่วนผสมกับน้ำมันดอกคำฝอย 30 ส่วน จะช่วยลดโคเลสเตอรอล ได้ดีกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น และวิตามินอีที่มีมากในน้ำมันรำจะช่วยเสริมฤทธิ์ของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งมีอยู่มากในน้ำมันดอกคำฝอยเป็นอย่างดี ผลงานวิจัยนี้ยังคงเป็นความจริงและมีประโยชน์ทางการแพทย์ ทั้งในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันถึงปัจจุบันนี้

ผลงานวิจัยของ ศาสาตราจารย์แพทย์หญิงนันทา ติตถะสิริ เกี่ยวกับการวิเคราะห์สารพอร์ฟัยริน ซึ่งเป็นสารเมตะบอไลท์ของฮีโมโกลบิน ต่อมาได้มีการพัฒนาวิธีการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยในการวินิจฉัยภาวะ porphyrias ชนิดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยอย่างเหมาะสมต่อไป

ขณะนี้ภาควิชาฯ มีอาจารย์ประจำอยู่ 15 คน และกำลังศึกษาต่อในต่างประเทศ ระดับปริญญาเอกและหลังปริญญาเอก รวม 5 คน ทำให้งานวิจัยของภาควิชาฯ พัฒนาลงลึกในระดับพื้นฐานเทียบเท่ากับต่างประเทศ และจากการเปิดหลักสูตรปริญญาเอกนานาชาติ (ชีวเคมี) ที่ได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2544 และได้รับการปรับปรุงเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ได้ช่วยส่งเสริมให้งานวิจัยและวิชาการของภาควิชาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์และเสนอในที่ประชุมวิชาการในระยะ 12 ปีย้อนหลังนี้มีรวมทั้งหมด 199 เรื่อง เป็นการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ 60 เรื่อง, ในวารสารระดับชาติ 55 เรื่อง, เสนอผลงานในระดับนานาชาติ 41 เรื่อง และเสนอผลงานในระดับชาติ 46 เรื่อง และมีผลงานวิจัย 1 เรื่อง Establishment of OVS 1 and OVS 2 monoclonal antibodies recognizing human ovarian mucinous cystadenocarcinoma.” ตีพิมพ์ใน Asian Pacific J Allerg Immunol 1995; 13:47-53. ได้รับรางวัลงานวิจัยดีเด่นของปรีคลินิกของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประจำปี 2538

ในปี พ.ศ. 2551 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้มีการกำหนดกรอบการทำวิจัยของคณะฯ (area of excellence) ดังนั้นภาควิชาฯ จึงมีการพัฒนางานวิจัย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะ ได้กำหนดไว้ และวางแนวทาง area of excellence ของภาควิชาฯ ไว้ดังนี้

ประวัติความเป็นมา ด้านงานบริการ

แผนกชีวเคมีเมื่อ 70 กว่าปีก่อนมีหน้าที่ให้บริการทางห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับการวิเคราะห์เคมีคลินิก ทั้งหมดให้กับโรงพยาบาล ได้แก่การวิเคราะห์เลือด เช่น กลูโคส ยูเรีย โคเลสเตอรอล แอลบูมิน โกลบูลิน วิเคราะห์น้ำหล่อสมองไขสันหลัง เช่น โปรตีน กลูโคส กลูตามีน การตรวจความเป็นกรดในน้ำย่อย วิเคราะห์ปัสสาวะโปรตีน ยูเรีย ครีอะตินีน และวิเคราะห์สารน้ำอื่นๆ รวมแล้วมีจำนวนกว่า 100 ตัวอย่างในแต่ละวัน ทำการวิเคราะห์โดยพนักงานวิทยาศาสตร์ 2 คน และไม่มีเครื่องมืออัตโนมัติช่วย เมื่อวิเคราะห์เสร็จจะต้องรีบนำผลกรอกในใบส่งตรวจ รวมทั้งจัดเตรียมขวดใส่เลือดใหม่ให้ด้วยนับว่าเป็นภาระงานที่หนักมากอีกส่วนหนึ่ง เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากงานด้านการเรียนการสอนที่หนักมากเช่นเดียวกับปรีคลินิกอื่นๆของชั้นปีที่ 2 ต่อมาเมื่อมีภาควิชาพยาธิวิทยาคลินิก รับผิดชอบงานบริการทางห้องปฏิบัติการต่างๆแล้ว ภาควิชาชีวเคมียังคงให้บริการการวิเคราะห์พิเศษบางอย่าง ที่เครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติไม่สามารถทำได้ ซึ่งวิธีการเหล่านั้นส่วนใหญ่จะมาจากผลงานวิจัยที่ได้ศึกษามาแล้วว่าเป็นประโยชน์ทางคลินิก เช่นการตรวจระดับวิตามิน เอนไซม์ และสารเมตะบอไลท์ต่างๆ รวมทั้งการวิเคราะห์ทางอณูชีววิทยา เป็นต้น