
อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ต่อมไร้ท่อ
และเมแทบอลิซึม
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
วิสัยทัศน์
มุ่งหวังให้แพทย์ประจำบ้านต่อยอดอนุสาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ที่สำเร็จการฝึกอบรมจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีทักษะและความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย ให้ความสำคัญกับสุขภาวะองค์รวมของผู้ป่วย ทั้งตัวโรค สภาพจิตใจ สภาพครอบครัว และเศรษฐฐานะ โดยมีมาตรฐานในการรักษาระดับสากล มีการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง และนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม มาใช้ในการพัฒนาหน่วยงานของตนเอง เพื่อให้เกิดศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม เกิดความสุข และความภาคภูมิใจในตนเอง
พันธกิจของการฝึกอบรม
ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ เป็นระบบที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับการเติบโต และกระบวนการทำงานด้านเมแทบอลิซึมของร่างกายมนุษย์ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ การเติบโตและพัฒนาการของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งพัฒนาการของอวัยวะเพศที่สมบูรณ์ของทารกในครรภ์ การเติบโตทางด้านร่างกายและพัฒนาด้านสมอง การเข้าสู่วัยหนุ่มสาว และมีบทบาทสำคัญในวัยเจริญพันธุ์ ความผิดปกติของระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ มีผลทำให้ทารกและเด็กมีความผิดปกติของการเติบโตด้านร่างกายและพัฒนาการต่าง ๆ โดยรวม ซึ่งอาจนำไปสู่ความบกพร่องของคุณภาพชีวิตได้ ปัจจุบันปัญหาโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึมพบได้มากขึ้น และมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากความเป็นอยู่ดีขึ้น เศรษฐฐานะดี การบริโภคอาหารแบบตะวันตกมากขึ้นและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้พบโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเมแทบอลิซึม เช่น โรคเบาหวาน อ้วน ไขมันสูงในเลือดเพิ่มขึ้นมาก นอกจากนั้นเมื่อความรู้ทางการแพทย์กว้างขวางขึ้นและการสาธารณสุขดีขึ้น ผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคเนื้องอกในสมอง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยที่ได้รับรังสีรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก โรคไตวายก่อนและหลังการปลูกถ่ายไต เป็นต้น มีชีวิตยืนยาวขึ้นภายหลังการรักษา ทำให้เกิดปัญหาโรคต่อมไร้ท่อซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนระยะยาวมากขึ้น นอกจากปัญหาดังกล่าว ประชาชนมีความรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์มากขึ้น จึงมีความสนใจด้านสุขภาพและปัญหาของเด็ก เช่น เรื่องความสูงและการเข้าสู่วัยรุ่นเร็วผิดปกติ อวัยวะเพศกำกวม ภาวะเตี้ย ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ภาวะขาดวิตามินดี เป็นต้น ดังนั้นจำนวนเด็กโรคต่อมไร้ท่อจึงเพิ่มมากขึ้นในทุกภาคของประเทศเพื่อให้การวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึมดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดพันธกิจของแผนการฝึกอบรม “เพื่อผลิตกุมารแพทย์อนุสาขาโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ที่มีความรู้สามารถในการบริบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบต่อมไร้ท่อ มีความใฝ่รู้ศึกษาต่อเนื่อง ก้าวทันวิทยาการ สร้างองค์ความรู้ใหม่ บนพื้นฐานแห่งจริยธรรมคุณธรรม สามารถปฏิบัติงานในชุมชนและรับใช้สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสอดคล้องกับความต้องการของสังคม สิ่งแวดล้อมและเหมาะสมกับทรัพยากรและเศรษฐกิจของประเทศ”
คณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบอนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ได้จัดทำหลักสูตรและเริ่มการฝึกอบรมในปีพ.ศ. 2533 และมีการปรับปรุงครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2547 และครั้งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ. 2560 ดังนั้น เพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัยก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการและสอดคล้องกับมาตรฐานอุดมศึกษา 2561 และเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับนานาชาติ จึงได้ดำเนินการปรับปรุงอีกครั้งในปี 2566 อนุสาขาวิชากุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรฯ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2566 ให้สอดคล้องกับหลักสูตรฯ ดังกล่าว โดยจัดแผนการฝึกอบรมให้มีลักษณะเป็นการเรียนรู้โดยการปฏิบัติงานเป็นฐานที่มีการบูรณาการทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้ได้กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึมที่มีความรู้ความสามารถที่ทันยุคกับความก้าวหน้าทางวิทยาการและการเปลี่ยนแปลงของสังคม ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยยึดถือผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รวม คิดอย่างมีวิจารณญาณ มีความเอื้ออาทรและใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ป่วยเพื่อการแก้ไขปัญหาและการสร้างเสริมสุขภาพ มีเจตนารมณ์และเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต มีความสามารถในการทำงานแบบมืออาชีพ ปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองอย่างเต็มตัวโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำ สามารถปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นรวมทั้งสหวิชาชีพได้ รวมทั้งการจัดสมดุลระหว่างสภาวะการทำงานและการดูแลสุขภาพของตนเอง
นอกจากพันธกิจดังกล่าวข้างต้น การฝึกอบรมอนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึมภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังมุ่งหวังให้กุมารแพทย์เฉพาะทางอนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม มีความรู้ความเข้าใจระบบสุขภาพของประเทศ และระบบพัฒนาคุณภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่ง ณ ปัจุบันตัวอย่างของการพัฒนาคุณภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ชัดเจน คือการก่อตั้งเครือข่ายบริบาล และการลงทะเบียนเบาหวานชนิดที่ 1 และเบาหวานวินิจฉัยก่อนอายุ ๓๐ ปี ประเทศไทย (Thai Type 1 Diabetes and Diabetes diagnosed Age before 30 years Registry, Care, and Network) หรือ T1DDAR CN ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหลายองค์กร โดยแกนหลัก คือ สมาคมโรคเบาหวาน แห่งประเทศไทย สมาคมต่อมไร้ท่อเด็กและวัยรุ่นไทย สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และผู้ป่วยเบาหวานวินิจฉัยก่อนอายุ ๓๐ ปี เพื่อให้ทราบถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การรักษาและการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และที่สำคัญเพื่อสร้างเครือข่ายในการดูแลและยกระดับการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ให้ได้มาตรฐานทั่วทั้งประเทศ
ซึ่งสาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน ประมาณ 300 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ประมาณ 200 ราย โดยในการฝึกอบรมมุ่งหวังให้แพทย์ประจำบ้านต่อยอด นอกจากเข้าใจระบบคุณภาพของประเทศแล้ว สามารถให้การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมโดยมีผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลางและทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย

จุดเด่นของหลักสูตร
มีผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากอยู่ในเครือข่าย TIDDAR CN

แพทย์ประจำบ้านต่อยอดได้ฝึกทักษะการดูแลผู้ป่วยเบาหวานใน “3 in 1 Siriraj Diabetes School Camp”

กิจกรรม
🎯จำนวนที่เปิดรับ 2 ตำแหน่ง
