คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ขอแสดงความยินดีแก่ พว.จุฬาพร ประสังสิต พยาบาลชำนาญการพิเศษและผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง ในโอกาสได้รับรางวัล บุคคลคุณภาพ ประจำปี 2567 ประเภทผู้ปฏิบัติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานมอบรางวัลในงานมหกรรมคุณภาพ (Quality Fair) ครั้งที่ 23 ประจำปี 2567 ณ ห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น G คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

รางวัลบุคคลคุณภาพประจำปี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ บุคลากรคณะ ฯ เพื่อเป็นการยกย่องและเผยแพร่เกียรติคุณของผู้ได้รับรางวัลให้ประชาคมศิริราชได้รับรู้ร่วมชื่นชมยินดี และเรียนรู้แบบอย่างในการทำงานให้เกิดคุณค่าแก่บุคคลและคณะ ฯ

พว.จุฬาพร ประสังสิต ปัจจุบันดำรงตำแหน่งพยาบาลชำนาญการพิเศษและผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ท่านเป็นบุคลากรที่มีคุณลักษณะโดดเด่นที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการอย่างแท้จริง ตลอดการทำงานที่ผ่านมา ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและประโยชน์สูงสุดของคณะฯ เป็นที่ตั้ง เป็นแบบอย่างในการดำรงตน เป็นบุคลากรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ท่านให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการ ท่านมีผลงานที่โดดเด่น ดังนี้

ด้านภาวะผู้นำและการเป็นแบบอย่างด้านการพัฒนาคุณภาพ
– ในฐานะประธานกรรมการคลินิกออสโตมีและแผล ท่านให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคุณภาพงาน โดยการบริหารจัดการคลินิกออสโตมีและแผล ให้มีระบบการพยาบาลที่เข้าถึงง่าย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างทันท่วงที ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการให้การบริการ ดำเนินการจัดการสำรวจความชุกแผลกดทับในโรงพยาบาลศิริราช วิเคราะห์ผลลัพธ์ของความชุกและอุบัติการณ์การเกิดแผลกดทับ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของ Siriraj Safety Goal และนำผลลัพธ์เทียบเคียงกับชมรมเครือข่ายพัฒนาการพยาบาล University Hospital Nursing Director Consortium (UHNDC) ระดับประเทศ และ The National Medicare Patient Safety Monitoring ระดับสากล
– ในฐานะประธานคณะกรรมการตัวชี้วัดการป้องกันการเกิดแผลกดทับ ของชมรมเครือข่ายพัฒนาการพยาบาล วาระในปี 2566-2568 ท่านมีการดำเนินงานโดยทบทวนความหมายตัวชี้วัดของแผลกดทับให้ชัดเจน มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในการอ้างอิงเป็นปัจจุบัน เพื่อให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งในเครือข่ายและนอกเครือข่าย สามารถนำไปใช้ในการเก็บข้อมูลและเทียบเคียง รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนางานด้านการป้องกันแผลกดทับได้

ด้านการบริหารจัดการบุคลากร สร้างความผูกพัน และความเป็นทีม
– ท่านให้ความสำคัญกับบุคลากรโดยการบริหารอัตรากำลัง ในคลินิกออสโตมีและแผล ให้เพียงพอต่อการให้การบริการผู้ป่วย และแบ่ง Level Competency ในการจัดอัตรากำลังขึ้นปฏิบัติงาน
– ท่านมีส่วนส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาสมรรถนะ โดยการทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อนำผลงานในคลินิกออสโตมีและแผล เข้าร่วมนำเสนอผลงานในการประชุมในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
– ท่านมีส่วนในการพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้นำ ในการดูแลผู้ป่วยออสโตมี แผล และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ให้กับพยาบาลออสโตมีและแผล โดยการจัดประชุม Update and Refresh for ET Nurse และมีการสัมมนาประจำปี เพื่อสร้างความผูกพันของทีม อัตราความผูกพันของพยาบาลออสโตมีและแผล ปี 2564-2566 ร้อยละ 98.0, 94.32 และ 95.83 ตามลำดับ

ด้านการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ สู่การพัฒนางาน
– ส่งเสริมให้คลินิกออสโตมีและแผล เป็นสถานที่ดูงานและสถานที่ฝึกปฏิบัติงาน ของสถาบันต่าง ๆ และได้รับรางวัล ศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมทางการพยาบาลเพื่อส่งเสริมสุขภาพ โดยเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ภาคกลาง ในปี 2560 จากสภาการพยาบาลร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
– นอกจากนี้ท่านยังเป็นประธานในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น การพยาบาลผู้ป่วยออสโตมี แผล และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ เพื่อให้พยาบาลมีความรู้ และพัฒนาทักษะเฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วย เกิดการสร้างเครือข่ายพยาบาลในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยออสโตมี แผล และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ในประเทศ โดยจัดหลักสูตรสำหรับพยาบาลทั่วประเทศ ทุกปี ซึ่งเป็นหลักสูตรที่รับรองโดยสภาการพยาบาล (พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน)
– จัดประชุมวิชาการชมรมเครือข่ายพัฒนาการพยาบาล หัวข้อ Pressure Injury: Nursing Quality Indicator ในปี 2566 ทาง Zoom application ให้กับพยาบาลทั่วประเทศ
– มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน ทำให้เกิดเครือข่ายผู้แทนหน่วยบริการผู้ป่วยทวารใหม่ มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน (2558-2562)
– เป็นผู้นำร่วมกับทีมพยาบาลออสโตมีและแผล และงานพัฒนาคุณภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในการสร้างแนวปฏิบัติในการป้องกันแผลกดทับ Siriraj Concurrent Trigger Tool: Modify Early Warning Sign for Pressure Injury Prevention เผยแพร่สู่ระดับชาติและนานาชาติ (ประเทศสิงคโปร์) ได้รับรางวัล Team Good Practice Award ในงานมหกรรมคุณภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2561 และในปี 2565 ร่วมกับทีมพยาบาลออสโตมีและแผล นำองค์ความรู้จาก CoP ของกลุ่มหอผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผลกดทับ มาพัฒนาแนวปฏิบัติ Siriraj Concurrent Trigger Tool: Modify Early Warning Sign for Pressure Injury Prevention Version 2 ใช้ในโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน
– เป็นผู้ดำเนินการหลัก (Core team) ในการจัดการความรู้ในหน่วยงาน โดยมีกิจกรรม ชุมชนนักปฏิบัติแผลและออสโตมี (Community of Practice: Wound and Ostomy) ชุมชนนักปฏิบัติ High Risk Unit ของฝ่ายการพยาบาล นำองค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันแผลกดทับของโรงพยาบาลศิริราช และนำความรู้จากชุมชนนักปฏิบัติ เผยแพร่ใน www2.si.mahidol.ac.th/km อย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับทีมจัดทำข้อมูลความรู้ด้านการดูแลและป้องกันแผลกดทับ การดูแลผู้ป่วยที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้องสำหรับประชาชน เผยแพร่ทาง YouTube ET Nurse Siriraj, รายการพบพยาบาลศิริราช ทาง Siriraj Channel รวมถึงได้รับเชิญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างและพัฒนาชุมชนนักปฏิบัติ ให้องค์กรภายนอก จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทำให้ทีมได้รับรางวัล Siriraj CoP of the Year 2021: The best of Knowledge Sharing และรางวัล Siriraj CoP of the Year 2022: CoP Good Community of Practice
– นำทีมพยาบาลออสโตมีและแผล จัดกิจกรรม “World Ostomy day” ร่วมกับ ชมรมออสโตเมท ที่มีสมาชิกจากหลากหลายโรงพยาบาลในประเทศ และ Coloplast professional และจัดกิจกรรมในวันป้องกันแผลกดทับโลก (World Wide Pressure Injury Prevention Day) ร่วมกับงานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อรณรงค์ให้เกิดการเรียนรู้และตระหนักในเรื่องการป้องกันแผลกดทับ ในบุคลากรทางด้านสาธารณสุขและภาคประชาชน
– แลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยการเป็นวิทยากร/จัดทีมพยาบาลออสโตมีและแผล ให้ความรู้เรื่องการดูแลลำไส้เปิดทางหน้าท้อง และการดูแลแผลเรื้อรัง สำหรับนักศึกษาแพทย์ และจัด Work shop การดูแลแผลเรื้อรังในชุมชน หลักสูตรแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว หน่วยการศึกษาหลังปริญญา ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล (2566)
– หัวหน้าทีม Wound care เข้าร่วมโครงการความร่วมมือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางการพยาบาลนานาชาติกลุ่ม CoP Wound Care ระหว่างฝ่ายการพยาบาลฯ และ Center for Asian Nursing Studies (CANS) Tan Tok Seng Hospital โดยมีกิจกรรม CoP และการดูงาน นำมาปรับและพัฒนาการบริการผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของศิริราช เพื่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น

ด้านการพัฒนาระบบการทำงานและผลงานด้านการพัฒนาคุณภาพ
– ในบทบาท Advance Practice Nurse ท่านมีการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับผ่าตัดลำไส้เปิดทางหน้าท้อง ตั้งแต่รับเข้า จนกระทั่งจำหน่ายและการดูแลต่อเนื่อง โดยมีการวัดผลตัวชี้วัดในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความพึงพอใจที่เป็นไปตามเป้าหมายและสูงกว่าเป้าหมาย โดยมีสถาบันเทียบเคียง
– ท่านส่งเสริมการทำงานเป็นทีมสหสาขา ให้คำปรึกษาในผู้ป่วยเฉพาะกลุ่มโรค ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (Colorectal Cancer) ผู้ป่วยที่มีรูเปิดทางหน้าท้อง แผลเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ผิวหนังระคายเคืองถูกทำลายจากการกลั้นอุจจาระ/ปัสสาวะไม่ได้ โดยได้รับการส่งปรึกษาจากแพทย์และทีมสหสาขาวิชาชีพ เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีมในทุกจุดของการบริการ ทำให้การดูแลผู้ป่วยเกิดคุณภาพ และความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ
– เป็นผู้นำของทีมพยาบาลออสโตมีและแผล ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างผลงานด้านคุณภาพอย่างต่อเนื่อง คลินิกออสโตมีและแผลได้รับรางวัล หน่วยงานดีเด่นแพลททินัม อย่างต่อเนื่อง 6 ปี (ปี 2560-2562, 2564-2566) และเป็นหัวหน้าโครงการ/ผู้ร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องทุกปี ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่น 11 ชิ้นงาน (ปี 2564-2566)
– การพัฒนาการบริการช่วงการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019: ได้พัฒนาการให้บริการทาง Tele Nursing โดยประสานติดต่อกับหน่วย VDC เพื่อให้การบริการเข้าสู่ระบบ Tele Medicine ของโรงพยาบาล ผู้ป่วยสามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิการรักษา และได้รับเวชภัณฑ์ในการดูแลแผล หรือเวชภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลลำไส้เปิดทางหน้าท้องส่งให้ที่บ้าน และยังคงให้บริการอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
– ท่านได้รับเชิญจากสภาการพยาบาล ร่วมจัดทำแนวปฏิบัติทางการพยาบาลและข้อสอบ เพื่อใช้ในการสอบขอหน่วย CNEU สำหรับพยาบาลทั่วประเทศ ในเรื่องแนวปฏิบัติการพยาบาลเรื่อง การป้องกันแผลกดทับ แนวปฏิบัติการพยาบาลการดูแลแผลกดทับ ในปี 2564 และแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงที่ได้รับการผ่าตัดลำไส้เปิดหน้าท้อง ในปี 2565
– มีส่วนร่วมในการกำหนดแผน และเป้าหมายการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะโรค (Specific Disease) ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย เป้าหมาย ทิศทางการบริหารด้านการพยาบาล และให้สอดคล้องกับนโยบายทิศทางการบริหารงานของโรงพยาบาลศิริราช
– นอกจากนี้ท่านยังเป็นกรรมการ การพัฒนาการพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกลุ่มโรค เพื่อให้ผู้ป่วยเฉพาะกลุ่มโรคที่มีปัญหาซับซ้อนได้รับการดูแลตามมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานการประเมินรับรองคุณภาพขององค์กรภายนอก ใช้การจัดการความรู้ทางการพยาบาลให้เกิดระบบการบริการ องค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรม งานวิจัย และแนวปฏิบัติทางการพยาบาล
– จากการพัฒนางานผ่านกระบวนการต่าง ๆ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในด้านการดูแลแผลกดทับ คือ อัตราความชุกการเกิดแผลกดทับขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล (Harm ระดับ 2 ขึ้นไป) ในปี 2567 เท่ากับร้อยละ 4.91 (เป้าหมายน้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 5 เทียบเคียงกับ ชมรมเครือข่ายพัฒนาการพยาบาล University Hospital Nursing Director Consortium (UHNDC)) ด้านการดูแลผู้ป่วยที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง ผลลัพธ์คืออัตราผู้ป่วยที่มี Peristomal Skin Complication หายภายใน 30 วัน ในปี 2566 ร้อยละ 100 (เป้าหมายมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80) อัตราคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง หลังผ่าตัดระยะเวลา 6 เดือน ผลลัพธ์ในปี 2566 ร้อยละ 100 (เป้าหมายมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80) และอัตราคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง หลังผ่าตัดระยะเวลา 1 ปี ผลลัพธ์ที่ปฏิบัติได้ในปี 2566 ร้อยละ 100 (เป้าหมายมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80)

ผลงานที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบางส่วนของท่าน ที่แสดงถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเทในการปฏิบัติ และการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลงานของท่านในระดับคณะฯ เป็นที่ประจักษ์ แสดงถึงความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลอย่างกว้างขวางทั้งต่อประชาคมชาว
ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล และสังคม จึงเห็นควรอย่างยิ่งที่จะยกย่องให้ พว.จุฬาพร ประสังสิต เป็นบุคคลคุณภาพ ประจำปี พ.ศ. 2567 (ประเภทผู้ปฏิบัติ) ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

“ทำงานด้วยความรัก จะทำให้เรามีชีวิต
เพื่อที่จะดูแลชีวิตผู้อื่น”